น้ำมันปลาดีกับแม่ท้องจริงหรือ
 
น้ำมันปลาคืออะไร
             น้ำมันปลา หรือ Fish oil หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเหมือนกับน้ำมันตับปลา แต่ความจริงเป็นไขมันของปลาซึ่งมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 (Omega-3) ซึ่งปลาทะเลในประเทศแถบอากาศหนาวนั้นจะมีกรดไขมันจำเป็นในปริมาณที่สูง และมีไขมันประเภทโคเลสเตอ
รอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในปริมาณที่ต่ำ จึงนิยมนำปลาทะเลเหล่านี้มาสกัดเอาน้ำมันปลา
 
มีประโยชน์กับแม่ท้องอย่างไร
             ไขมันในน้ำมันปลาจะช่วยสร้างองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมทั้งเนื้อสมอง เม็ดเลือดชนิดต่างๆ ควบคุมการเกิดลิ่มเลือด และสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย โดยเฉพาะโอเมก้า 3 จะช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดที่จะไปอุดเส้นเลือดฝอยของหัวใจ และทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) ซึ่งเป็นไขมันอันตรายลดลงต่ำลง
             การกินน้ำมันปลาอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะช่วยลดอาการอักเสบของข้อกระดูกของแม่ท้องได้ ทั้งนี้คุณแม่ท้องควรเริ่มทานน้ำมันปลาตั้งแต่อายุครรภ์ 7 สัปดาห์ โดยการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
             ถึงแม้โอเมเก้า 3 จะเป็นกรดไขมันที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่หากคุณแม่ท้องกินน้ำมันปลาชนิดเม็ดหรือแคปซูลมากเกินไป ก็จะเกิดการสะสมในร่างกายตามอวัยวะต่างๆ จนอาจจะก่ออันตรายได้ และหากบริโภคเกินความต้อง
 
การอาจก่อให้เกิดความพิการต่อทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้ คุณแม่ท้องควรหยุดกินน้ำมันปลาเมื่อตั้งครรภ์ 6-7 เดือน เพราะจะทำให้เกร็ดเลือดจับตัวกันลดลง ซึ่งแม้เป็นผลดีที่ช่วยไม่ให้เกิดการอุดตันใน
หลอดเลือด แต่อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าเมื่อเกิดบาดแผลหรือผ่าตัด
             ดังนั้น คุณแม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการกินน้ำมันปลาในรูปของยาเม็ดหรือแคปซูล และหันมากินน้ำมันปลาจากการเลือกบริโภคอาหารแทน เพราะในอาหารจะมีความสมดุลของกรดไขมันต่างๆ อย่างพอเหมาะ และราคาถูกกว่าด้วย
 
พบในอาหารชนิดใด
             กรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำมันปลานั้น มีอยู่ในปลาชนิดต่างๆ ซึ่งปลาซาร์ดีนจะมีโอเมก้า 3 ในปริมาณที่สูง รวมถึงปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะพงแดง และยังพบได้ในกุ้งและปูทะเลด้วย
            นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังมีอยู่ในธัญญพืชชนิดต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ถั่วอัลมอลต์ เมล็ดฟักทอง เป็นต้น